
เกี่ยวกับการประชุม
งานประชุมวิชาการระดับชาติเครือข่ายความรู้สุขภาวะทางปัญญาครั้งที่ 2
สุขภาวะทางปัญญา’68 “จิตวิญญาณ การร่วมทุกข์ ความหวัง”
งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานมหกรรมพบเพื่อนใจ Soul Connect Fest 2025 “Humanice”
วันที่ 27 ก.พ. – 2 มี.ค. 2568 ณ สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ
(ชั้น G ชั้น 5 และโรงแรมทริปเปิ้ลวาย ชั้น 11)
จัดโดย สำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
และศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา

องค์กรร่วมจัดงาน
-
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
-
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.)
-
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
-
ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
-
สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
-
คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
-
คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
-
สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
-
ห้องปฏิบัติการศาสนา วัฒนธรรม และสันติภาพ สาขาวิชาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยพายัพ
-
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
-
โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหิดล
-
สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-
โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
-
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
-
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (ศมส.)
-
สถาบันวิจัยสังคมและสุขภาพ
-
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
-
ศูนย์ความเป็นเลิศการุณรักษ์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
-
คณะอนุกรรมการส่งเสริมจริยธรรมนิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย
-
มูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา
-
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาชุมชนกรุณา
-
มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน (ThaiTGA)
-
มูลนิธิธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม (ธ.พ.ส.ส.)
-
กลุ่ม Peaceful Death
-
ธนาคารจิตอาสา
-
ความสุขประเทศไทย
-
สวนโมกข์กรุงเทพ
-
ศูนย์พัฒนาจิตวิญญาณและภาวะผู้นำเซเวียร์ - Xavier Spiritual and Leadership Development Center (SLDC)
-
ทิพยสถานธรรมภิกษุณีอาราม
-
โครงการโคแฟค (COFACT - Collaborative Fact Checking)
-
โครงการจัดพิมพ์คบไฟ มูลนิธิเพื่อการศึกษาประชาธิปไตยและการพัฒนา
-
โครงการ We Oneness มูลนิธิสหธรรมิกชน
-
โครงการ Happy Growth
-
โครงการก่อการครูแพทย์
-
โครงการก่อการพระอาจารย์
-
เครือข่ายครูแพทย์ CPIRD Resilience Advisors
-
เครือข่ายพุทธศาสนิกสัมพันธ์เพื่อสังคมนานาชาติ (INEB - International Network of Engaged Buddhists)
-
เครือข่าย Spiritual Health Influencer
-
เครือข่ายห้องเรียนวัฒนธรรม
-
เครือข่ายผู้เยียวยาและผู้ทำงานทางสังคม
-
เครือข่ายแม่มดและผู้ฝึกฝนทางจิตวิญญาณ (Witches and Spiritual Practitioners Network)
-
สมาคมเครือข่ายการเรียนรู้ชีวิตองค์รวม (Holistic Living and Learning Network Association (HOLLA)
-
สมาคมดนตรีบำบัด ประเทศไทย
-
ชีวามิตร วิสาหกิจเพื่อสังคม
-
เยือนเย็น วิสาหกิจเพื่อสังคม
-
วิสาหกิจเพื่อสังคมจิตวิทยาสติ
-
กลุ่มเบิกบานเฟส
-
เครือข่ายจิตสำนึกระบบอาหาร CoFSA (Conscious Food Systems Alliance) โดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)
-
ณ สมดุลย์ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาวะและพัฒนาสมดุลชีวิตองค์รวม
-
Centre for Humanitarian Dialogue (HD)
-
บริษัท อินี่เครือข่ายนวัตกรรมสากล จำกัด (INI - Innovation Network International)
-
CoJOY Consulting
-
บริษัท ชูใจ กะ กัลยาณมิตร จำกัด
-
Jimi The Coach Group

คณะกรรมการจัดงาน
ที่ปรึกษา
-
ศ.เกียรติคุณ นพ. ประเวศ วะสี
ประธานกรรมการ
-
ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช - ที่ปรึกษาศูนย์จิต ตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
คณะกรรมการ
กลุ่มทำงานระบบสุขภาพและการสร้างเสริมสุขภาวะ
-
นางญาณี รัชต์บริรักษ์ - ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
-
นพ.สุเทพ เพชรมาก - เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
-
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ - ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
-
นพ.อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล - ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.)
-
พญ.ปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ - ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.)
-
ดร.นพ.วิรุฬ ลิ้มสวาท - สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ สำนักวิชาการสาธารณสุข สำนักงานปลัดฯ กระทรวงสาธารณสุข
กลุ่มทำงานขับเคลื่อนสุขภาวะทางปัญญา
-
พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ ศ.ดร. - รองผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดไร่ขิง
-
คุณพ่อวิชัย โภคทวี เอส. เจ. - ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาจิตวิญญาณและภาวะผู้นำเซเวียร์ – Xavier Spiritual and Leadership Development Center (SLDC)
-
ศ.ดร.นพ.อิศรางค์ นุชประยูร - ศาสตราจารย์ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการเยือนเย็น วิสาหกิจเพื่อสังคม
-
รศ.ดร.นพ.ชัชวาลย์ ศิลปกิจ - ผู้อำนวยการศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
-
ผศ.ดร.อดิศร จันทรสุข - คณบดีคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
-
ดร.นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ - ที่ปรึกษาวิชาการมูลนิธิสังคมและสุขภาพ
-
ดร.นพ.สกล สิงหะ - อาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และผู้ประสานงานหน่วยชีวันตาภิบาล โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
-
นพ.บัญชา พงษ์พานิช - กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ
-
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ - ผู้ทรงคุณวุฒิกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
-
ดร.สรยุทธ รัตนพจนารถ - ผู้อำนวยการร่วมธนาคารจิตอาสา
-
นางสาววรรณา จารุสมบูรณ์ - ผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาชุมชนกรุณา
-
นายนภนาท อนุพงศ์พัฒน์ - ผู้อำนวยงานมูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา
กลุ่มนักวิชาการสันติศึกษา
-
ศ.กิตติคุณ ดร.สุริชัย หวันแก้ว - ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านสังคมวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ประธานคณะกรรมการการจัดการการเปลี่ยนแปลงทางสังคม (MOST) ในคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยยูเนสโก
-
รศ.ดร.โคทม อารียา - ที่ปรึกษาสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
-
รศ.ดร.มารค ตามไท - นักวิชาการด้านสันติศึกษา มหาวิทยาลัยพายัพ
-
ดร.ชาญชัย ชัยสุขโกศล - CoJOY Consulting
-
นางสาวนารี เจริญผลพิริยะ - นักจัดฝึกอบรมด้านสันติวิธี
-
นางสาวธีรดา ศุภะพงษ์ - ผู้แทนประเทศไทย Centre for Humanitarian Dialogue (HD)
อื่นๆ - นักวิชาการปรัชญา
-
ศ.กิตติคุณ ดร.สุวรรณา สถาอานันท์ - อาจารย์พิเศษภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กรรมการและเลขานุการ
-
นางจารุปภา วะสี - ผู้อำนวยการศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา
คณะทำงานเ ลขานุการ
-
นางสาวรัชนี วิศิษฎ์วโรดม - ผู้จัดการงานประชุมเครือข่ายความรู้สุขภาวะทางปัญญา
-
นางสาวศักดิ์สินี เอมะศิริ - ผู้ประสานงานประชุมเครือข่ายความรู้สุขภาวะทางปัญญา
-
นางสาวชลธยา ทรงรูป - ผู้ประสานงานประชุมเครือข่ายความรู้สุขภาวะทางปัญญา
-
นางสาวอุษณีย์ เพียรภัทรพงศ์ - ผู้ประสานงานศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา
-
นางสาวพรรัตน์ วชิราชัย - ผู้ประสานงานศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา
-
นางสาวแสงอรุณ ลิ้มวงศ์ถาวร - นักสื่อสารศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา
-
นางสาวลลิตา ไวสินิทธ์ธรรม - ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา
-
นายปราย วะสี - ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา
ความเป็นมาของการจัดงาน
รายงานระดับโลกหลายฉบับกล่าวถึงประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการสูญเสียสุขภาวะอันเกิดจากสถานการณ์วิกฤตจำนวนมากที่เชื่อมโยงทับซ้อน (Polycrisis) กลายเป็น “โลกผันผวนและร่วมมือตํ่า” ที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนามนุษย์ บั่นทอนทักษะแห่งการฟื้นคืน และลดความสามารถในการตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้พบว่า อุปสรรคสำคัญเกิดจาก “การขาดความเห็นพ้องและขาดความร่วมมือกัน” และข้อแนะนำสำคัญในการไปต่อ คือการให้ความสำคัญ “ความพยายามขั้นตํ่าที่เป็นไปได้” และ “การรับมือกับผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” โดยมีการพูดถึง “ความสำคัญของมิติด้านในของมนุษย์” อย่างจริงจังมากขึ้นในหลายเวที รวมทั้งเห็นว่า “ความพยายามทำงานร่วมกัน” ยังคงเป็นรากฐานสำคัญในการรับมือวิกฤตการณ์ต่างๆ
เช่นเดียวกับสถานการณ์ในประเทศไทยที่ภาคียุทธศาสตร์สุขภาวะทางปัญญา ของ สสส. ร่วมกันทบทวนสถานการณ์ปัญหา และพบประเด็นสำคัญอยู่ที่การแพร่ระบาดของวัตถุนิยม ความรุนแรง และมายาคติ จนทำให้ชีวิตทั้งของปัจเจกและสังคมขาดสมดุล การสะสมพลังของความโลภ โกรธ และหลงมากขึ้นเรื่อยๆ ผนวกกับการรายงานเชิงประจักษ์ของการเข้าสู่สังคมสูงวัย ปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรงขึ้นในคนทุกวัย การถดถอยของความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กวัยเรียน การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี ปัญหาโลกเดือด และความเหลื่อมลํ้า-ไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรุนแรง
กระแสโลกหันมาให้ความสนใจกับการนำมิติทางสุขภาวะทางปัญญาหรือมิติจิตวิญญาณมาร่วมแก้วิกฤตต่างๆมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่สำคัญเช่น ในเวที G20 Interfaith Forum หรือ (IF20) มีการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้นำศาสนา ผู้นำทางการเมือง นักวิชาการ และภาคส่วนต่างๆ มาประชุมเป็นเวทีคู่ขนานแบบเป็นทางการกับเวทีประชุมผู้นำเศรษฐกิจโลก หรือ G20 มาตั้งแต่ พ.ศ. 2557 เพื่อเร่งดำเนินการในประเด็นสาธารณะระดับโลกควบคู่กับกระบวนการทางเศรษฐกิจด้วยเป้าหมาย “เชื่อมศรัทธาและนโนบายเข้าด้วยกัน” (Bringing Faith and Policy Together)
ในปี พ.ศ. 2562 องค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) กำหนดเข็มทิศการเรียนรู้ (The OECD Learning Compass 2030) ที่ให้ความสำคัญที่สุดต่อแนวทางพัฒนาคุณภาพภายในของมนุษย์ในด้านคุณค่าและทัศนคติ เน้นความสำคัญของความไว้วางใจและเชื่อถือได้ ซึ่งเชื่อมไปยังการพัฒนาคุณค่าร่วมของความเป็นพลเมือง คือความเคารพ ความยุติธรรม ความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม มีคุณธรรม และการมีความรู้สึกตัว
ปี พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ริเริ่มการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรระบบอาหารแห่งสติ (Conscious Food Systems Alliance หรือ CoFSA) เพื่อเชื่อมโยงผู้คนหลายภาคส่วนทั่วโลก รวมทั้งชนพื้นเมืองดั้งเดิม มาเชื่อมโยงเป็นขบวนการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติร่วมกัน เพื่อเชื่อมโยงเรื่องอาหาร การเกษตร และการพัฒนามิติด้านในของชีวิตเข้าด้วยกันผ่านแพลตฟอร์มหลากหลายรูปแบบ เพื่อบ่มเพาะศักยภาพภายในเพื่อสร้างการฟื้นฟูและเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ
หมุดหมายสำคัญของโลกในการทำงานพัฒนามิติด้านในเกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2564 นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ และผู้ปฏิบัติการกว่า 4,000 คนทั่วโลกที่มีประสบการณ์การเรียนรู้มิติด้านในของมนุษย์ ได้ร่วมกันประกาศว่าการบรรลุเป้าหมายระดับโลกในปี 2030 ว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) นั้นยากเกินไป เพราะมนุษย์ขาดศักยภาพที่จะรับมือความท้าทายอันซับซ้อน โดยกล่าวว่า ถ้าต้องการให้ SDGs เป็นไปได้ ต้องมีเป้าหมายการพัฒนาภายใน Inner Development Goals หรือ IDGs ที่ประกอบด้วยทักษะภายใน 5 กลุ่ม ด้านตัวตน ความคิด ความสัมพันธ์ ความร่วมมือ และการกระทำ ปัจจุบันมีเครือข่าย IDG มีองค์กรสมาชิกจำนวนมากทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย และมีการจัดงานประชุม IDG Summit เป็นงานใหญ่ประจำปีอย่างต่อเนื่อง
ในปี พ.ศ. 2566 การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ ครั้งที่ 28 (COP28) ที่ดูไบ มีการสร้าง Faith Pavilion ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก โดยองค์กรพันธมิตรทางศาสนาและจิตวิญญาณ (Faith-Based Organizations หรือ FBOs) ทำงานร่วมกับ UNDP โดยมีผู้นำศาสนาต่างๆระดับโลกหลายท่านเข้าร่วมงาน เป็นสัญญาณของการผสานการทำงานในมิติจิตวิญญาณเข้ากับการทำงานด้านภูมิอากาศและสันติภาพ มีประกาศปฏิญญา COP28 ว่าด้วยสภาพภูมิอากาศ การบรรเทาทุกข์ การฟื้นฟู และสันติภาพ และส่งต่อแนวคิดมายังการประชุม COP29 ที่อาเซอร์ไบจาน ซึ่งมีคนทำงานสิ่งแวดล้อม ศาสนา และสันติภาพจากไทยไปเข้าร่วมประชุมด้วย
และในปี พ.ศ. 2567 นี้ OECD จัดทำรายงาน Faith in Action: Religion and Spirituality in the Polycrisis กล่าวถึงการใช้แรงศรัทธาจากศาสนาและจิตวิญญาณที่มีในประชากรโลก 85% เข้ามาจัดการวิกฤตระดับมหภาคที่ทับซ้อน เชื่อมโยง และส่งผลกระทบถึงกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยกล่าวว่า พลังจากความศรัทธาจะส่งผลสำคัญต่อการกำหนดคุณค่าของตนเอง การให้ความหมายของชีวิตที่ดี การสร้างความไว้วางใจและการสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชน องค์กร และสังคม รวมทั้งมีอำนาจต่อรองทางการเงินด้วย
ในประเทศไทยเอง ความพยายามในการขับเคลื่อนงานสุขภาวะปัญญาร่วมกันของภาคีเครือข่ายสุขภาวะทางปัญญาก็ร่วมอยู่ในทิศทางของกระแสสากล โดยกำหนดยุทธศาสตร์สำคัญประการหนึ่งของการทำงานสุขภาวะทางปัญญา คือ การเข้าทำงานร่วมกับประเด็นรูปธรรมที่เป็นความทุกข์ร่วมของสังคม เพื่อทำให้การสร้างเสริมสุขภาวะทางปัญญามีผลกระทบสำคัญต่อการสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวมทั้ง 4 มิติได้มากขึ้น โดยกลุ่มภาคีสุขภาวะทางปัญญาของสสส. ได้กำหนดคำสำคัญ 8 กลุ่ม เพื่อเป็นทิศทางในการขับเคลื่อนงานสุขภาวะทางปัญญา คือ
-
การเท่าทันมายาคติทางสังคมที่สร้างทุกขภาวะ
-
การมีสติ การภาวนา การเข้าใจตนเอง เห็นคุณค่าและความหมายของชีวิต
-
การเผชิญความจริงที่เป็นทุกข์สุขร่วมทั้งภายในตนเองและสังคม
-
การมีความยืดหยุ่นฟื้นคืนเมื่อเกิดวิกฤต
-
การรับฟัง การเคารพความแตกต่างหลากหลาย และเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
-
ความเห็นอกเห็นใจ การให้ และการช่วยเหลือเกื้อกูล
-
ความไว้วางใจ ความร่วมมือ และสันติภาพ
-
การเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนนโยบายที่สนับสนุนให้เกิดความเป็นธรรมทางสังคม
การขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุขภาวะทางปัญญาในประเทศไทยดำเนินการหลายรูปแบบ วิธีหนึ่งการจัดงานมหกรรมประจำปี ซึ่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา กำหนดช่วงเวลาจัดงานมหกรรมสุขภาวะทางปัญญาให้เชื่อมโยงกับวาระวันความสุขสากล (The International Day of Happiness) ขององค์กรสหประชาติ ในวันที่ 20 มีนาคมของทุกปี เพื่อเชื่อมโยงกับประเด็นของวันสำคัญนี้ ซึ่งมีที่มาจากแนวคิดของประเทศภูฏานที่ยํ้าว่า “ความสุขของปัจเจก” เชื่อมโยงกับ “ความสุขมวลรวมประชาชาติ”อย่างใกล้ชิด โดยองค์การสหประชาชาติประกาศว่า “ความสุขเป็นเป้าหมายพื้นฐานของมนุษย์” และเรียกร้องให้นานาชาติให้ความสำคัญกับแนวทางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีส่วนร่วม เท่าเทียม และสมดุลมากขึ้น เพื่อสร้างเสริมความสุขและสุขภาวะของคนทั้งหมด โดยเสนอให้รัฐบาลและองค์กรสากลต่างๆลงทุนในปัจจัยที่ส่งเสริมความสุขโดยมีนโยบายที่สนับสนุนประเด็นสิทธิมนุษยชน สุขภาวะ และสิ่งแวดล้อม สนับสนุนสันติภาพและระเบียบทางสังคม รวมทั้งเรื่องภาษี สถาบันกฎหมาย และบริการสาธารณะที่สอดคล้องชัดเจนกับความพึงพอใจในชีวิตโดยเฉลี่ยของผู้คน
งานมหกรรมสุขภาวะทางปัญญาครั้งแรกจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2566 ในชื่อ “Soul Connect Fest 2023” โดยประกอบด้วยอีเวนต์ใหญ่ 2 งาน คือ งานประชุมวิชาการระดับชาติเครือข่ายความรู้สุขภาวะทางปัญญา ครั้งที่ 1 (วันที่ 17-18 ส.ค. 66 ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) และงานมหกรรมพบเพื่อนใจ 1 (วันที่ 19-20 ส.ค. 66 ที่ลิโด้ คอนเนคท์) มีองค์กรร่วมจัดทั้งสิ้น 70 องค์กร มีผู้เข้าร่วมงานประชุมวิชาการประมาณ 700 คน ผู้เข้าร่วมงานมหกรรมพบเพื่อนใจประมาณ 10,000 คน และพบผลลัพธ์สำคัญที่เกิดขึ้น 3 ประการ คือ
(1) เกิดพื้นที่เรียนรู้ขนาดใหญ่ของสาธารณะ ที่เข้าถึงง่าย สร้างสรรค์ ดึงดูดใจ และสื่อสารประเด็นสุขภาวะทางปัญญา โดยระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมงานทั้งสองงานอยู่ในระดับมากที่สุด สะท้อนสภาพสังคมที่มีความต้องการพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้และการมีประสบการณ์ตรงในการพัฒนามิติด้านในอย่างยิ่ง
(2) เกิดพื้นที่ขนาดใหญ่ในทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรกขององค์กรที่มีการทำงานเชื่อมโยงกับประเด็นสุขภาวะทางปัญญา และทั้งหมดต้องการทำงานร่วมกันในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันสร้างเสริมการพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาของตนเอง เครือข่าย และสังคมในภาพรวม
(3) เกิดพื้นที่สื่อสารสาธารณะและพื้นที่ความรู้ที่หล่อเลี้ยงกระแสประเด็นสุขภาวะทางปัญญาที่สามารถเข้าถึงได้ทางออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากสื่อของสสส. และภาคียุทธศาสตร์สำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา
จากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นของการจัดงานครั้งแรก สสส.จึงวางหมุดหมายในการจัดงานมหกรรมสุขภาวะทางปัญญาต่อเนื่องทุก 1-2 ปี เพื่อสร้างเสริมการพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาและสุขภาวะองค์รวมของสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งเสริมการเรียนรู้และเพิ่มความสามารถของคนในสังคมให้เข้าใจความจริง ตั้งแต่ความจริงภายในตนไปจนถึงความจริงสูงสุดของโลกและชีวิต และเพิ่มความสามารถในการเชื่อมโยงและทำประโยชน์ที่ประณีตขึ้นทั้งต่อตนเอง ผู้อื่น สังคม และธรรมชาติ เป็นการขยายขอบเขตของจิตสำนึกจากจิตเล็กไปสู่จิตใหญ่ร่วมกัน
งานมหกรรมสุขภาวะทางปัญญา Soul Connect Fest 2025 ได้ปรับวิธีการจัดงานจากการจัดแยกระหว่างงานประชุมวิชาการและการสร้างพื้นที่ประสบการณ์ มาร่วมกันเป็นงานเดียวในเวลา 4 วัน (27 ก.พ.-2 มี.ค. 68) ที่สามย่านมิตรทาวน์ ในธีมหลักคือ “HUMANICE” เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายหลักของทั้งสองงาน คือ นักวิชาการ นักปฏิบัติการ คนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน และครอบครัว ให้เข้าร่วมงานตามประเด็นที่สนใจได้ในมิติที่กว้างและลึกมากขึ้น โดยหลอมรวมความรู้และประสบการณ์ตรงเข้าด้วยกัน
ในส่วนการประชุมวิชาการระดับชาติเครือข่ายความรู้สุขภาวะทางปัญญา ครั้งที่ 2 นี้ จัดขึ้นในชื่อ สุขภาวะทางปัญญา’68 “จิตวิญญาณ การร่วมทุกข์ ความหวัง” ซึ่งเกิดจากทิศทางของยุทธศาสตร์การทำงานสุขภาวะทางปัญญา ที่ให้ความสำคัญกับการนำประเด็นสุขภาวะทางปัญญาเข้าทำงานร่วมกับประเด็นอื่นๆ เพื่อส่งผลกระทบในสร้างสุขภาวะร่วมกันของสังคมมากขึ้นดังกล่าวมาแล้ว โดยการเป็นความร่วมมือของนักวิชาการและนักปฏิบัติการที่ทำงานในประเด็น สุขภาวะทางปัญญา สันติศึกษา ศาสนา สุขภาพ และการศึกษา มาร่วมกันจัดงานนี้ขึ้น เพื่อหันหน้าเข้าพูดคุย รับฟัง และร่วมกันสื่อสารถึงความห่วงใยในประเด็นสำคัญจากความทุกข์ร่วมที่เราเผชิญอยู่ แลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงจากแง่มุมชีวิตอันหลากหลาย โดยเฉพาะชีวิตคนธรรมดาๆจำนวนมากที่กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ต่างๆ ร่วมติดตามความรู้และมุมมองใหม่ๆทั้งจากการศึกษาค้นคว้าทางวิชาการและบทเรียนจากการทำงานจริงในการสร้างสันติภายในจิตใจและสันติสุขของสังคม และเกิดปัญญาร่วมที่ช่วยให้เราตระหนักถึงสถานการณ์ความเป็นจริงรอบด้าน เกิดการตั้งคำถามกับการใช้ชีวิตตามความคุ้นชินที่ส่งผลทำลายล้าง ทั้งตนเอง ผู้อื่น และโลก ได้แนวทางปฏิบัติหรือข้อตกลงร่วมกัน ที่จะช่วยให้ผู้คนและสังคมเกิดสามารถในการเยียวยา สร้างภูมิคุ้มกัน และเผชิญความจริง รวมทั้งเกิดการขยายแวดวงกัลยาณมิตรที่ปรากฏตัวเพื่อร่วมกันทำงานต่อไปในอนาคต
การร่วมทุกข์และความหวัง คือจุดร่วมสำคัญของการทำงานในมิติสุขภาวะทางปัญญา ศาสนา จิตวิญญาณ และสันติภาพ และเป็นประเด็นที่มีขอบเขตทั้งเชิงกว้างและลึก เชื่อมโยงตั้งแต่เรื่องราวภายในตนเอง ความสัมพันธ์กับผู้อื่นและสังคม ระบบและโครงสร้างทางสังคมและวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชาติ ไปจนถึงระบบนิเวศของโลก โดยมีฐานสำคัญอยู่ที่ความสุขสงบในจิตใจ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความสุข และทำให้เกิดสภาวะแห่งความร่วมมือ สันติภาพ หรือสภาวะของ “การเกิดไมตรีจิตอันไพศาลต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสิ่ง อันเป็นไปเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลของมนุษย์กับมนุษย์และมนุษย์กับธรรมชาติ” เกิดขึ้นได้ และหากโลกมีสันติภาพ โลกจะมีทรัพยากรและความรู้เพียงพอสำหรับความอยู่ดีมีสุขของมนุษย์ทุกคนบนดาวนพเคราะห์ดวงนี้
วัตถุประสงค์ของการจัดงาน
-
เพื่อสร้างพื้นที่ในการรวมตัวร่วมคิดร่วมทำ สำหรับนักวิชาการ นักปฏิบัติการ และผู้สนใจทำงานในประเด็นสุขภาวะทางปัญญา สันติศึกษา จิตวิญญาณ ศาสนา การศึกษา และสุขภาพ ให้ได้มาเชื่อมโยง เรียนรู้จากกัน เป็นกัลยาณมิตร และเป็นปัจจัยให้เกิดการพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาและพัฒนาการทำงานทั้งของปัจเจกและกลุ่ม
-
เพื่อสำรวจ พัฒนาความรู้และสร้างปัญญาร่วม ในประเด็นการสร้างสันติภาพ ตั้งแต่สันติภายในใจจนถึงสันติภาพของสังคม
-
เพื่อนำเสนอให้สังคมเข้าใจถึงการใช้มิติจิตวิญญาณเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์ยากๆที่สังคมเผชิญอยู่ โดยเฉพาะประเด็นปัญหาความขัดแย้งระดับต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของสังคมและโลกปัจจุบัน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
-
เครือข่ายความรู้สุขภาวะทางปัญญาได้พบปะประจำปีและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
-
ความเชื่อมโยงข้ามกลุ่มระหว่างคนทำงานส่งเสริมสุขภาวะทางปัญญาและคนทำงานสันติภาพ
-
แนวทางและองค์ความรู้ใหม่ๆเพื่อขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ ได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณะ และจัดเก็บไว้เป็นคลังความรู้ออนไลน์ที่สาธารณะเข้าถึงได้
-
ข้อเสนอแนะถึงแนวทางการทำงานในประเด็นสำคัญของสังคม และสร้างโอกาสของความร่วมมือในระดับต่างๆอย่างสร้างสรรค์
กลุ่มเป้าหมาย
นักวิชาการ นักปฏิบัติการ และคนรุ่นใหม่ ที่ทำงานหรือสนใจการทำงานในประเด็นสุขภาวะทางปัญญา สันติศึกษา จิตวิญญาณ ศาสนา การศึกษา แล ะสุขภาพ และบุคคลทั่วไปที่แสวงหาความรู้และประสบการณ์เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะทางปัญญาและสุขภาวะองค์รวม ประมาณ 2,000 คน
จุดมุ่งเน้นที่งานนี้ให้ความสำคัญ
-
การร่วมกันหาทางออกของปัญหายากๆ และสร้าง Moral Imagination เพื่อเป็นการให้ทิศทางของสังคมในการฝ่าความมืดมน ก้าวข้ามความทุกข์ และให้ความหวังถึงการเปลี่ยนแปลง
-
การเชื่อมงานสันติศึกษาและสุขภาวะทางปัญญา เพื่อให้ทั้งสองส่วนมีพลังมากขึ้นในการขับเคลื่อนสังคม
-
การเชื่อมการทำงานวิชาการและประสบการณ์จริงเข้าด้วยกันเป็นปัญญาปฏิบัติ
-
การทำงานแบบเครือข่ายของเครือข่าย
-
การเข้ามามีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่
-
การเข้ามามีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายและผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงของประเด็น
-
การต้อนรับความหลากหลาย ทั้งประเด็น ประสบการณ์ชีวิต รูปแบบการเผชิญความทุกข์และการแก้ปัญหา
แนวทางการทำงานสำคัญ
-
การทำงานแบบเป็นเครือข่าย โดยแต่ละห้องย่อยเชื่อมงานกันเป็นคลัสเตอร์เชิงประเด็น
-
แต่ละกลุ่มคลัสเตอร์มีการทำงานร่วมกันโดยมีเจ้าภาพห้องประชุมวิชาการย่อยที่ชัดเจน แต่ละห้องอาจทำการพูดคุยกันแบบไม่เป็นทางการในกลุ่ม หรือจัดประชุมกลุ่มย่อยก่อนการจัดงานเพื่อ
-
ร่วมกันสรุปสถานการณ์และความเป็นไปได้ด้านต่างๆของประเด็น ทั้งบวกและลบ โอกาส ความติดขัด อุปสรรค ความท้าทาย หนทางคลี่คลายปัญหา และการไปต่อ
-
กำหนดประเด็นสำคัญที่จะนำเสนอในที่ประชุม เพื่อส่งเสียงถึงประเด็นสำคัญ และการเชื่อมโยงประเด็นกับมิติจิตวิญญาณ และการสร้างความเข้าใจร่วมให้กับสังคม
-
กำหนดรูปแบบและกระบวนการการจัดประชุมจริง กำหนดผู้เข้าร่วมเวที และกำหนดผู้ที่อยากชวนมารับฟัง ให้ความเห็น ร่วมทุกข์ และแสวงหาโอกาสในการร่วมมือเพื่อหาทางออกร่วมกัน
-
เตรียมการจัดการสำหรับการจัดประชุมจริง
-
ในแต่ละห้องย่อยมีการภาวนาร่วมกันสั้นๆในตอนต้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนรู้ร่วมกัน จากนั้นเป็นส่วนเนื้อหาหลัก ส่วนสรุปความรู้ และส่วนสะท้อนการเรียนรู้ร่วมกันในตอนท้าย
-
มีการรวบรวมความรู้ที่เกิดขึ้นผ่านการบันทึกวิดีโอเพื่อจัดทำเป็นคลังความรู้ออนไลน์ผ่านช่องทางการสื่อสารของศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา
-
มีการรวบรวมและสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานประชุมทั้งหมดจัดทำเป็นเอกสารหลังการประชุม (Proceedings) โดยเจ้าภาพห้องย่อยและคณะทำงานวิชาการร่วมกันจัดทำ